การปรับปรุงชาชงสมุนไพรสูตร THP-R016 : การจัดทำมาตรฐานชาชงสมุนไพร เเละการประเมินความเป็นพิษในสัตว์ทดลอง

หัวข้อวิจัย การปรับปรุงชาชงสมุนไพรสูตร THP-R016 : การจัดทำมาตรฐานชาชงสมุนไพร

เเละการประเมินความเป็นพิษในสัตว์ทดลอง

คณะนักวิจัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศศิธร ชูศรี

ดร.อัจฉราภรณ์ อิสริยะ

ดร.ชลทิต สนธิเมือง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธรรมรัตน์ แก้วมณี

หน่วยงานที่รับผิดชอบ คณะการแพทย์แผนไทย  

ปีที่ได้รับงบประมาณ 2559 



การปรับปรุงชาชงสมุนไพรสูตร THP-R016 : การจัดทำมาตรฐานชาชงสมุนไพรเเละการประเมินความเป็นพิษในสัตว์ทดลอง

คณะนักวิจัย ผศ.ดร.ศศิธร ชูศรี1

ดร.อัจฉราภรณ์ อิสริยะ2

ดร.ชลทิต สนธิเมือง1 

ผศ.ดร.ธรรมรัตน์ แก้วมณี3

 

บทคัดย่อ

เป็นที่ทราบกันดีว่าสมุนไพรที่ผสมกันหลายๆ ชนิดมักจะถูกนำมาบริโภคในรูปแบบของของเหลว     โดยการทำเป็นชาชงซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนั้น ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความเป็นเอกลักษณ์ของชาชงจากสมุนไพรที่มีความโดดเด่นในด้านของฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยอาศัยภูมิปัญญา        ในด้านสมุนไพรไทย นอกจากนี้การประเมินความปลอดภัยของประสิทธิภาพของชาชงจากสมุนไพร ทำได้โดยการประเมินเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณหลังจากทำการป้อนสารสกัดชาชงทุกวันเป็นเวลา 28 วันและ 90 วันในหนูแรทสายพันธุ์ Wistar ทั้งเพศผู้และเพศเมีย สูตรตำรับ Phy-Blica-D เป็นชาชงจากสมุนไพรที่พัฒนามาจากตำรับยาบำรุงกำลังทางการแพทย์แผนไทย (Phy-Blica-0) 5 สูตรตำรับที่แตกต่างกัน (Phy-Blica-A, Phy-Blica-B, Phy-Blica-C, Phy-Blica-D และPhy-Blica-E) ล้วนแต่ทำมาจากสมุนไพรทั้งสิ้น ซึ่งมีรายงานคะแนนของการทดสอบทางประสาทสัมผัสที่สูงกว่าสูตรดั้งเดิม โดยทำการชงชาที่อุณหภูมิ 98±2 °C เป็นเวลา 3 นาที ซึ่งมีผลคะแนนการยอมรับโดยรวมของสูตรตำรับ Phy-Blica-D ที่สูงกว่าสูตรดั้งเดิมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (5.60±0.37 กับ 2.90±0.36, p<0.05) การป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระของชาชงสูตรตำรับ Phy-Blica-D ถูกประเมินโดยฤทธิ์ในการเข้าจับโลหะทรานซิชัน (Metal chelating assay) การทำให้ลูกโซ่ของการเกิดอนุมูลอิสระสิ้นสุดลงของชาชงสูตรตำรับ Phy-Blica-D ถูกประเมินโดยการทำปฏิกิริยาในหลอดทดลอง ประกอบด้วย Mixed-mode (DPPH และ ABTS assays) SET (FRAP และ NBT assays)และ HAT (ORAC assay) ชาชงสูตรตำรับ Phy-Blica-D แสดงฤทธิ์ในการเข้าจับโลหะทรานซิชัน โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 0.11 mg/mL และแสดงฤทธิ์ในการเข้าจับอนุมูลอิสระ โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 0.24 mg/mL เมื่อประเมินด้วยวิธี DPPH และมีค่า IC50 เท่ากับ 0.49 mg/mL เมื่อประเมินด้วยวิธี ABTS จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นได้ว่าฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระของชาชงสูตรตำรับ Phy-Blica-D เมื่อทำการทดสอบด้วยวิธี DPPH, ABTS, และ Metal chelating มีฤทธิ์ที่ใกล้เคียงกับสูตรดั้งเดิม ค่าเฉลี่ยของการรีดิวซ์โลหะทรานซิชัน (FRAP) ของชาชงสูตรตำรับ Phy-Blica-D มีค่าเท่ากับ 522.99±3.07 µM FeSO4/mg extract ซึ่งมีค่าที่ต่ำกว่าสูตรดั้งเดิมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (664.36±5.71 µM FeSO4/mg extract) ความสามารถในการเข้าจับโดยตรงกับอนุมูลเปอร์ออกซิลของชาชงเพิ่มมากขึ้นตามความเข้มข้นและแสดงความสามารถที่เทียบเท่ากับสารมาตรฐาน Trolox โดยมีค่า TEAC เท่ากับ 10.95±0.12 µM TE/mg extract นอกจากนี้ยังพบว่า ค่า IC50 ของการประเมินความสามารถในการ เข้าจับโดยตรงกับอนุมูลซุปเปอร์ออกไซด์แอนไอออน ของชาชงสูตรตำรับ Phy-Blica-D มีค่าเท่ากับ 0.08 mg/mL ซึ่งมีค่าต่ำกว่าสูตรดั้งเดิม และในการทดสอบฤทธิ์ต้านปฏิกิริยา Iipid peroxidation โดยการวัดความสามารถในการยับยั้งปริมาณ MDA ที่เกิดขึ้นในปฏิกิริยาพบว่ามีร้อยละของการยับยั้งปริมาณ MDA เพิ่มมากขึ้นตามความเข้มข้น ในทำนองเดียวกันได้มีการรายงานถึงสารประกอบฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์โดยรวมของชาชงสูตรตำรับ Phy-Blica-D ซึ่งมีค่าที่ต่ำกว่าสูตรตำรับ PryBica-O ในการศึกษาความเป็นพิษทั้งแบบกึ่งเฉียบพลันและกึ่งเรื้อรัง ทำได้โดยการป้อนสารสกัดทางปากให้แก่หนูแรทสายพันธุ์ Wistar ทั้งเพศผู้และเพศเมียที่ขนาด 5, 50 และ 300 mg/kg เป็นเวลา 28 วันและ 90 วัน ตามลำดับ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าสัตว์ทดลองไม่มีอาการป่วยและไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นพิษของอาการแสดง น้ำหนักตัว การบริโภคอาหารและน้ำ และพบว่าชาชงสูตรตำรับ Phy-Blica-D ไม่มีผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักของอวัยวะสัมพัทธ์ ค่าโลหิตวิทยาและค่าชีวเคมีในเลือดและไม่พบการเปลี่ยนแปลงทางด้านเนื้อเยื่อของอวัยวะภายใน จึงสรุปได้ว่าชาชงสูตรตำรับ Phy-Blica-D มีคะแนนของความชอบที่ดี มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระดีในระดับหลอดทดลองและไม่มีพิษเมื่อป้อนสารสกัดชาชงสูตรตำรับ Phy-Blica-D ทางปากที่ขนาดไม่เกิน 300 mg/kg/day ในทั้ง 2 เพศ ผลจากการศึกษาแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยเมื่อป้อนสารสกัดให้แก่สัตว์ทดลองและความเป็นเอกลักษณ์ของชาชงสูตรตำรับ           Phy-Blica-D ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้

 

Abstract

It is well-known that several polyherbal mixtures were consumed in liquid form by making a tea which has many health benefits. Therefore, this present study was aimed to develop a unique polyherbal infusion which possesses remarkable antioxidant capacity based on traditional Thai herbal wisdom. Moreover, safety evaluation of the effective herbal infusion were conducted by qualitative and quantitative assessments after 28-day and 90-day repeated oral administration of the infusion in male and female Wistar rats. Phy-Blica-D is a polyherbal infusion modified from a Thai traditional rejuvenator medicine (Phy-Blica-O). Five different remedies (Phy-Blica-A, Phy-Blica-B, Phy-Blica-C, Phy-Blica-D, and Phy-Blica-E) have been made from the herbal medicine. Sensory scores reported for the remedies were higher than the original formula. Brewing at 98±2°C for 3 min, the total acceptability score of Phy-Blica- D infusion were found be significantly higher than the original herbal medicine (5.60±0.37vs. 2.90±0.36, p<0.05). Preventive antioxidant property of Phy-Blica-D were determined by metal chelating assay. Chain-breaking antioxidant activities of Phy-Blica- D infusion were evaluated by a series of in vitro assays including mixed-mode based (DPPH and ABTS assays), SET-based (FRAP and NBT assays), and HAT-based (ORAC and lipid peroxidation assays) methods. Phy-Blica-D infusion has metal chelating activity with IC50 value of 0.11 mg/mL and possess radical scavenging activity with IC50 value of 0.24 mg/mL in DPPH assay and 0.49 mg/mL in ABTS assay. It should be noted that the antioxidant activities of Phy-Blica-D infusion testing by DPPH, ABTS, and metal chelating assays were similar to that of Phy-Blica-O. The mean FRAP value of the Phy- Blica-D was found to be 522.99±3.07 µM FeSO4/mg extract, which was significantly lower than that of Phy-Blica-O (664.36±5.71 µM FeSO4/mg extract). The peroxyl radical scavenging capacity of the infusion exhibited in a dose-dependent manner and possessed trolox equivalent antioxidant capacity (TEAC) of 10.95±0.12 µM TE/mg extract, and then lipid peroxidation test measuring ability to inhibition of MDA the extract exhibited in a dose-dependent manner.In addition, IC50 values for the superoxide anion radical scavenging activity of Phy-Blica-D infusion were 0.08 mg/mL, which was lower than of the original formula. Similarly with reported the total contents of phenolics and flavonoids obtained from Phy-Blica-D infusion, which was lower than the contents found in Phy-Blica-O infusion.          In sub-acute and sub-chronic toxicite tests,  Phy-Blica-D was administered orally to male and female Wistar rats at 5, 50, and 300 mg/kg for 28 days and 90 days, respectively, Our study revealed no morbidity and no toxic changes in clinical signs, body weight and food and water consumptions. There were no Phy-Blica-D consumption-related adverse effects in organ weights, hematology, and serum biochemistry as well as no gross histopathological changes were found. Taken together, it can be concluded that Phy-Blica-D infusion which had good hedonic scores were confirmed for its good in vitro antioxidant capacity oral no-observed-adverse effect level of Phy-Blica-D infusion was less than 300 mg/kg/day in both genders.    Our results confirm the safety of the unique polyherbal infusion, Phy-Blica-D when administered orally in rats, which can be used for development of functional beverages.

 

 

 

 

1คณะการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
2ภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
3ภาควิชาวิทยาศาสาตร์อาหารและโภชนาการ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *