หัวข้อวิจัย การสำรวจความต้องการหลักสูตรด้านฮาลาลของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
คณะนักวิจัย ดร. อัสมัน แตอาลี
นายซุกรี แวสอเหาะ
นางสาวอัสนี หวังพิทยา
หน่วยงานที่รับผิดชอบ วิทยาลัยอิสลาม
ปีที่ได้รับงบประมาณ 2557
การสำรวจความต้องการหลักสูตรด้านฮาลาลของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
คณะนักวิจัย ดร. อัสมัน แตอาลี1
นายซุกรี แวสอเหาะ2
นางสาวอัสนี หวังพิทยา2
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสนใจเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรฮาลาลของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย และความต้องการใช้บัณฑิตด้านฮาลาลของผู้ประกอบการและหน่วยงานในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเป็นกลุ่ม (Area or Cluster sampling Technique) ด้วยแบบสอบถาม (Questionnaire) ได้จำนวนกลุ่มนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 398 คน และตัวแทนผู้ใช้บัณฑิตในพื้นที่ 323 คน และได้สัมภาษณ์ตัวแทนกลุ่มตัวอย่าง 15 แห่ง ด้วยแบบสัมภาษณ์ (Interview Form) และจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ประชุมกลุ่ม (Focus Group) 8 คน ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างนักเรียนมากกว่าร้อยละ 80 เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 17-19 ปี และนับถือศาสนาอิสลาม โดยร้อยละ 41.2 ทราบว่ามีหลักสูตรด้านฮาลาล ระดับปริญญาตรีในสถาบันอุคมศึกษาทั้งในและต่างประเทศ และร้อยละ 57.8 มีความสนใจที่จะสมัครเข้าเรียน หากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีเปิดรับสมัคร ซึ่งสาขาวิชาวิทยาศาสตร์อาหารฮาลาล เป็นสาขาที่นักเรียนให้ความสนใจเข้าศึกษาต่อ คิดเป็นร้อยละ 53.3 ของนักเรียนที่สนใจเรียนต่อทั้งหมด โดยระดับความสนใจเรียนต่อหลักสูตรด้านฮาลาลของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 3.45 อย่างไรก็ตาม นักเรียนยังกังวลเกี่ยวกับจบหลักสูตรนี้แล้วจะประกอบอาชีพใดได้บ้าง และมีอาชีพที่ดีในอนาคต โดยมีระดับความมั่นใจในระดับป่านกลาง ซึ่งเท่ากับ 3.28 และ 3.40 ตามลำดับ ด้านกลุ่มผู้ใช้บัณฑิต มากกว่าร้อยละ 50 เป็นเพศชาย ทำงานหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยร้อยละ 66.9 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 33.7 อยู่ในช่วงวัยกลางคน มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า คิดเป็นร้อยละ 58.8 โดยร้อยละ 60.7 อยู่ในสถานที่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานฮาลาล โดยบุคลากรภายในที่ดูแลด้านฮาลาล ร้อยละ 22.0 เป็นเจ้าของโรงงาน และร้อยละ 11.0 เป็นนักวิเคราะห์นโยบายและแผน ซึ่งร้อยละ 67.2 ระบุว่าบุคคลที่ดูแลมาตรฐานฮาลาลนั้น ไม่ได้เรียนจบสาขาด้านฮาลาลโดยตรง โดยกลุ่มตัวอย่างมากกว่าร้อยละ 70 ให้ความเห็นว่า บุคลากรที่จบหลักสูตรฮาลาลโดยตรงมีประโยชน์ต่อสถานที่ทำงาน และในอีก 3-5 ปีข้างหน้าบุคลากรเหล่านี้ มีความจำเป็นต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม ฮาลาลของประเทศไทย จากผลการวิจัย ยังพบว่า ลักษณะหลักสูตรควรสามารถผลิตบัณฑิตที่มีความสามารถด้านฮาลาลที่หลากหลาย แต่เน้นหนักไปในด้านวิทยาศาสตร์อาหารฮาลาล เนื่องจากปัจจุบันยังขาดบุคลากรในด้านนี้อยู่มาก อย่างไรก็ตามความสามารถด้านอื่นๆ และพื้นฐานด้านศาสนายังเป็นสิ่งจำเป็น และจากการสัมภาษณ์เห็นด้วยกับการเปิดหลักสูตรค้านฮาลาล ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แต่ยังเป็นห่วงเรื่องตลาดของบัณฑิตที่จบมาของสาขานี้ โดยเฉพาะ โดยเห็นด้วยกับแนวทางเปีดหลักสูตร
การจัดการระบบฮาลาลโดยผ่านบุคลากรภายในที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านฮาลาลของสถานประกอบการสินค้าและบริการนั้น สามารถช่วยเสริมความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคมุสลิมได้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายมหาวิทยาลัยสร้างหลักสูตรด้านฮาลาลเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามการสร้างหลักสูตรใหม่ขึ้นมานั้น จำเป็นต้องลงทุนงบประมาณด้านบุคลากร อาคารสถานที่และสื่อการเรียนการสอน ดังนั้นการสำรวจความต้องการของหลักสูตร จึงเป็นสิ่งช่วยในการตัดสินใจให้มีประสิทธิผลมากขึ้น การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสนใจเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรฮาลาล ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย และความต้องการใช้บัณฑิตด้านฮาลาลของผู้ประกอบการและหน่วยงานในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ โดยเป็นวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) ผ่านตัวแทนกลุ่มนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 398 คน และตัวแทนผู้ใช้บัณฑิตในพื้นที่ 323 คน และได้สัมภาษณ์ตัวแทนของกลุ่มตัวอย่างดังกล่าวอีก 15 คน ด้วยแบบสัมภาษณ์ (Interview Form) และจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ประชุมกลุ่ม (Focus Group) เท่ากับ 8 คน ผลการวิจัยพบว่า ระดับความสนใจเรียนต่อหลักสูตรด้านฮาลาลของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 3.45 อย่างไรก็ตาม นักเรียนยังกังวลเกี่ยวกับจบหลักสูตรนี้แล้วจะประกอบอาชีพใดได้บ้าง และมีอาชีพที่ดีในอนาคต โดยมีระดับความมั่นใจในระดับปานกลาง ซึ่งเท่ากับ 3.28 และ 3.40 ตามลำดับ ด้านกลุ่มผู้ใช้บัณฑิต ให้ความเห็นว่า บุคลากรที่จบหลักสูตรฮาลาลโดยตรง มีประโยชน์ต่อสถานที่ทำงาน และในอีก 3-5 ปีข้างหน้า บุคลากรเหล่านี้ มีความจำเป็นต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศไทย จากผลการวิจัย ยังพบว่า ลักษณะหลักสูตรควรสามารถผลิตบัณฑิตที่มีความสามารถด้านฮาลาลที่หลากหลาย แต่เน้นหนักไปในด้านวิทยาศาสตร์อาหารฮาลาล เนื่องจากปัจจุบันยังขาดบุคลากรในด้านนี้อยู่มาก อย่างไรก็ตามความสามารถด้านอื่นๆ และพื้นฐานด้านศาสนายังเป็นสิ่งจำเป็น และผลจากการสัมภาษณ์ พบว่าผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการเปิดหลักสูตรด้านฮาลาล ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แต่ยังเป็นห่วงเรื่องตลาดของบัณฑิตที่จบมาของสาขานี้โดยเฉพาะ และมีความเห็นด้วยกับแนวทางเปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต เพื่อความรวดเร็วและสามารถแก้ปัญหาด้านงานรองรับของบัณฑิตที่จะจบไป
Abstract
The objectives of this research were to survey high school students’ interest in undergraduate programme in Halal and the needs of Halal graduates of entrepreneurs and
agencies in the 5 southern border provinces of Thailand. Area or cluster sampling technique was used in this research in which 398 high school students and 323 entrepreneurs and worker were selected. In addition, 15 people were interviewed and 8 were included in focus group. This study found that over 80 percent of students are female, 17-19 years old and Muslims. 41.2 percent of them know that there is undergraduate program in Halal in universities in Thailand and oversea. 57.8 percent are interested to enroll in undergraduate programme in Halal at Prince of Songkla University (PSU), Pattani Campus, should it offer this program of study. Moreover, 53.3 percent of these students want to enroll themselves in Halal Science. The mean of the students’ response is 3.45. However, the students are not certain about the future career and good career prospect mean of 3.28 and 3.40 respectively. As for entrepreneurs and workers in 5 southern border provinces of Thailand, over than 50 percent are male working at governmental and private agencies. 66.9 percent of them are Muslims, 33.7 percent are middle-aged and 50.8 have a bachelor degree. 60.7 of them work in a unit dealing with Halal certification. 22.0 percent stated s of manufacturing firms deal with Halal issues and 11.0 percent are dealt by policy and planning analysts. 67.2 percent of the respondents indicated that the internal staffs who are responsible for Halal standard are not graduates of Halal programs. Over 70 percent of the respondents are of the opinion that having graduates of Halal will benefit their offices In 3-5 years these graduates will be needed for Halal industrial development in Thailand. Moreover, Halal curriculum should provide the graduates with Halal knowledge in various fields and should also focus on Halal science due to the lack of the human resource in this area However, other knowledge including knowledge on Islamic law (Shariah) is also important. The interview results show that study Halal curriculum is needed at Prince of Songkla University (PSU) However, there are concerns on job prospects. Certificate program of Halal is a good choice at the moment due to shorter timeframe and better job prospects.
1วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
2สถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์