ความต้องการบริโภคเนื้อแพะและแกะของผู้บริโภคระดับบนในพื้นที่หกจังหวัดชาย เเดนภาคใต้ตอนบน (ภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูล เเละสงขลา)

หัวข้อวิจัย ความต้องการบริโภคเนื้อแพะและแกะของผู้บริโภคระดับบนในพื้นที่หกจังหวัดชายเเดนภาคใต้ตอนบน (ภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูล เเละสงขลา)

นักวิจัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ไพรัช วัชรพันธุ์

หน่วยงานที่รับผิดชอบ คณะวิทยาการจัดการ 

ปีที่ได้รับงบประมาณ 2553


ความต้องการบริโภคเนื้อแพะและแกะของผู้บริโภคระดับบนในพื้นที่หกจังหวัดชายเเดนภาคใต้ตอนบน 

(ภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูล เเละสงขลา)


ผู้วิจัย ผศ.ไพรัช วัชรพันธุ์1

บทคัดย่อ

แพะและแกะเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจภาคใต้ โดยเกษตรกรในพื้นที่ส่วนใหญ่ ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่าร้อยละ 80 ของประชากรที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งจะประกอบอาชีพ เกษตรกรรม ได้แก่ การทำสวนยางพารา ปาล์ม และสวนผลไม้ โดยจะเลี้ยงแพะเป็นอาชีพเสริมของ ครอบครัวไว้เพื่อบริโภค และกิจกรรมทางศาสนา ซึ่งกรมปศุสัตว์ (2555) รายงานว่าในปี 2554 พื้นที่เขต      ปศุสัตว์เขต 9 มีจำนวนแพะมากที่สุดในประเทศ โดยมีจำนวนแพะทั้งสิ้นกว่า 169,927 ตัว คิดเป็น 39.74 เปอร์เซนด์ ของจำนวนแพะทั่วประเทศ และมีจำนวนผู้เลี้ยงแพะมากถึง 30,595 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังมี แนวโนัมการเลี้ยงแพะเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในเขตพื้นที่ปศุสัตว์เขต 9 

จากการสำรวจแบบสอบถามความต้องการผลิตภัณฑ์จากแพะและแกะของกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นส่วนบุคคล และกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นสถาบันหรือหน่วยงาน ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร/ภัตตาคาร ฯลฯ ในตลาดระดับบน ในจังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูลและสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 488 ราย พบว่า ความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์จากแพะและแกะของกลุ่มผู้บริโภคระดับบน ผู้บริโภคกลุ่มส่วนบุคคล ต้องการบริโภค เรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ : 1) อาหารพร้อมรับประทาน 488 รายหรือร้อยละ 12.00 2) เนื้อแกะสด 487 ราย หรือร้อยละ 12.00 3) เนื้อแกะสด 484 รายหรือร้อยละ 12.00 4) นมแพะสด 473 ราย หรือร้อยละ 12.00 5) อาหารกึ่งสำเร็จรูป 458 รายหรือร้อยละ 11.00 6) นมแกะสด 395 ราย หรือร้อยละ 10.00           7) อวัยวะเพศแพะหรือแกะ 320 ราย หรือร้อยละ 7.00 8) อื่น ๆ (มัสมันแพะหรือแกะ ต้มยำแพะหรือแกะ และไส้กรอกแพะ ฯลฯ) 284 รายหรือร้อยละ 7.00 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร ได้ 1) เครื่องสำอางค์ 319 ราย หรือร้อยละ 8.00 2) เขาหนังแพะ/หนังแกะ จำนวน 312 ราย หรือร้อยละ 8.00 ตามลำดับ แต่เนื่องจากผลิตภัณฑ์จากแพะและแกะค่อนข้างจะหาบริโภคยากในท้องตลาดทั่วไป ทำให้ราคาเนื้อแพะและแกะ สูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 180 บาท แต่ก็มีผู้ซื้อกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นส่วนบุคคล ต้องการใช้จ่ายเนื้อแพะและแกะคิดเป็นเงินเฉลี่ยรายละ 150 – 400 บาทต่อครั้ง กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นสถาบันหรือหน่วยงาน ต้องการใช้จ่ายเนื้อแพะและแกะเฉลี่ยรายละ 7,000 – 18,000 บาทต่อครั้ง สถานที่จะสะดวกซื้อในพื้นที่เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ร้านค้าทั่วไป ตลาดสด และศูนย์การค้า ตามลำดับ ปัจจัยที่เป็นเหตุให้ผู้บริโภคไม่ตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์จากแพะและแกะ ก็ด้วยเหตุผล 3 ประการด้วยกัน คือ ราคาแพง หาซื้อยากและกลิ่นสาป ส่วนตราเครื่องหมายฮาลาลนั่นให้ความสำคัญอยู่ในระดับกลางๆ ของ กลุ่มผู้บริโภคในระดับบน 

เมื่อกล่าวถึง ศาสนากับการตัดสินใจซื้อแพะและแกะของผู้บริโภคในตลาดระดับบน หากมีการผลิตผลิตภัณฑ์แพะและแกะจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป พบว่า ทั้งกลุ่มที่เป็นผู้บริโภคส่วนบุคคลและตัวเเทนหน่วยงานส่วนใหญ่จะซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่นับถือศาสนาอิสลามจะซื้อมากกว่ากลุ่มผู้บริโภคที่นับถือศาสนาพุทธ ในกลุ่มของผู้บริโภคมุสลิม ให้ความสำคัญกับการเชือดและตราเครื่องหมาย     ฮาลาล ส่วนไทยพุทธร้อยละ 50.3 ยังไม่ทราบเรื่องฮาลาล สำหรับปัจจัยที่ผู้บริโภคทั้งสองกลุ่ม จะตัดสินใจไม่ซื้อผลิตภัณฑ์จากแพะและแกะ ประเด็นที่สำคัญๆ คือ ราดาแพง หาซื้อยาก และกลิ่นสาบ ผู้บริโภคที่เป็นไทยพุทธ ยังให้คำตอบว่าไม่ชอบรับประทานอยู่เป็นจำนวนค่อนข้างมากถึงร้อยละ 52.1 นอกจากนี้ หากมีผลิตภัณฑ์จากแพะและแกะจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป กลุ่มผู้บริโภคที่นับถือศาสนาพุทธ ตัดสินใจซื้อร้อยละ 54.0 ไม่ซื้อ 7.3% และไม่รู้/ไม่แน่ใจ ร้อยละ 37.6 กลุ่มผู้บริโภคที่นับถือศาสนาอิสลาม ตัดสินใจซื้อร้อยละ 95.1 ไม่ซื้อ ร้อยละ 0.5 และไม่รู้/ไม่แน่ใจ ร้อยละ 4.3 ดังนั้น ตลาดผลิตภัณฑ์จกแพะและแกะ ในตลาดระดับบน ในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นส่วนบุคคลอยู่ใน ระดับกลางๆ แต่ในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นตัวแทนหน่วยงาน เช่น โรงแรม ร้านอาหาร/ภัตตาคาร มีความต้องการบริโภคในปริมาณมากกว่าผู้บริโภคที่เป็นส่วนบุคคล และต้องการเนื้อแกะมากเนื้อแพะเพียง เล็กน้อย และต้องการให้ผู้ขายหรือผู้ผลิตส่งให้ถึงสถานที่จำหน่าย 

สำหรับส่วนผสมทางการตลาด โดยใช้หลัก 4 C’s ประกอบด้วย 1) ผู้บริโภค (Consumers) 2) ดันทุน (Costs) 3) ความสะดวกซื้อหรือสถานที่ซื้อ (Conveniences) 4) ชุมชน (Communities) มาใช้ในการ ตัดสินใจซื้อสำหรับผู้บริโภคในตลาดระดับบนในความต้องการผลิตภัณฑ์จากแพะและแกะ พบว่าให้ความสำคัญสูง ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ : 1 ด้านผู้บริไภค (Consumes) ในความหลากหลายมาก สูงถึงร้อยละ 45.8 2) ด้านต้นทุน (Cost) ให้ความสำคัญ – ราคาผลิตภัณฑ์ที่สอคคล้องกับคุณภาพ สูงถึงรัอยละ 55.8 3) ด้านความสะดวกซื้อ (Conveniences) ให้ความสำคัญ – สามารถเข้าถึงหรือซื้อผลิตภัณฑ์ให้ด้วยตนเองทุก แห่ง สูงถึงรัอยละ 32.3 และมีคนกลางมาส่งผลิตภัณฑ์จากแพะและแกะเป็นประจำ สูงถึงร้อยละ 313 ด้านชุมชน (Communities) ให้ความสำคัญ – การช่วยสร้างงานให้กับคนในชนบท สูงถึงร้อยละ 423 และให้ความสำคัญระดับปานกลาง ) ด้านผู้บริโภค (Consumers) – สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ย้อนกลับ ได้สูงถึงรัอยละ 56.4 และการประกันคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์จากหน่วยงานราชการ สูงถึงร้อย 55.8 2) ด้านต้นทุน (Costs) ให้มีคนกลางไปส่งสินค้ามีคนกลางมาส่งผลิตภัณฑ์จากแพะและแกะเป็นประจำ สูงถึงร้อยละ 31.3 3) ด้านความสะดวกซื้อ (Conveniences) ให้ความสำคัญ -ความสามารถเข้าถึง หรือซื้อผลิตภัณฑ์ให้ด้วยตนเองทุกแห่ง สูงถึงรัอยละ 464 4) ด้านชุมชน (Communities) ให้ความสำคัญปานกลาง   – ความไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม สูงถึงร้อยละ 41.5 และการช่วยสร้างงานให้กับคนในชนบท สูงถึงร้อยละ 38.2 อย่างไรก็ตาม แกะโดยภาพรวมเป็นทางเลือกที่ผู้บริโภคระตับบนมีความต้องการมากกว่าแพะ 

Abstract

Goat and sheep rearing are important economic activities by farmers around the southern border provinces of Thailand, Approximately 80% are Muslim which is working daily in rubber plantation, palm oil plantation, fruits plantation and so on. Most of them work as freelance for their own family consumption and religious activities. The Department of Animal of Thailand (2012) reported that there is more goat and sheep farming in southern Thailand than anywhere else in the country with approximately 169,927 goats or 39.74 percent of total as a whole country. There is also 30,595 farmers feeding goat and sheep. Besides this, there is a continuing increase in the number of goat and sheep farmers in southern Thailand. 

From a questionnaire survey, the demand of goat and sheep product from consumers and institutional or units (hotels, food courts and restaurant) in the upper market segment in Phuket, Krabi, Phangna, Trang, Satun and Songkla sampling a total number of 488 persons found that 1) Ready-to-eat foods for 488 persons or 12 percent 2) mutton for 487 person or 12 percent 2) goat meat for 487 persons or 98.77 3) Mutton for 481 persons or 12 persons 4) goat milk for 473  persons or 12 percent 5) Semi – products foods for 458 persons or 11 percent 6) sheep milk for 395 persons or 10 percent 7) Others (Goat or Mutton curry, goat or mutton soup, and goat or sheep saucage), and for 284 persons or 7 percent respectively. Non-foods consisted of 1) Cosmetics for 319 or 8 percent and 2) goat and sheep organ for 312 persons or 8 percent respectively. Since the goat and sheep products are rarely in local market which causes goat and sheep prices increased to 180 baht per kilometers and there will be some personal consumers willing to purchase on goat meat and mutton on average of 150 – 400 per person/times and institution consumers needed to purchase on goat meat and mutton for 7,000 – 18,000 baht per times. The places that were most convenient to purchase were general meat store, wet market and shopping centers respectively. Three factors that were found to cause consumers against deciding to purchase goat and sheep products were costly, rarely and smelling. For Halal trade mark or sign, consumers responded important at middle level in upper market level. 

In terms of applying the marketing mix or 4 C’s which included 1) Consumers 2) Costs 3) Conveniences 4) Communities, how were consumers responding in purchasing decision making to demanded of goat and sheep products at upper market? The data found that the most ranking important factors were 1) products varieties for 45.8 percent 2) Costing – price related to quality for 55.8 percent 3) Conveniences – products accessibility by consumers everywhere for 32.2 percent and having middleman to delivery products for 31.3 percent             4) Communities – job creation to villagers for 42.3 percent. The second or middle important level included 1) Consumer – tracing for 56.4 percent and quality guarantee/products standard by government office for 55.8 percent, 2) Costing – willing to pay higher price when products met standard and halal certification for 46.4 percent, 3) Conveniences – having middleman to delivery goat and sheep products for 31.3 percent, 4) Communities – not exploit environment for 41.5 and job creation in the rural for 38.2 percent. However, for overall upper market demanded mutton more than goat meat.






1คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *